Open ppbasleng opened 1 year ago
แผนที่ 1 แผนเก่า ตัวชี้วัดแต่ละด่าน - เงื่อนไขในการบรรลุด่าน 3 ข้อ = ดาว 3 ดวง (ไม่ใช่ที่แต้มเก็บในด่าน) ดวงแรก -> ผ่านด่าน(ตัวละครไปยังเส้นชัย) ดวงที่สอง -> จำนวน action ที่ตัวละครทำน้อยกว่า x ครั้งในการผ่านด่าน ดวงที่สาม -> จำนวนคำสั่งที่ใช้วางน้อยกว่า y ครั้งในการผ่านด่าน (x และ y แทนด้วยจำนวนครั้ง อาจจะใช้เกณฑ์เป็นวิธีผ่านที่สั้นที่สุดอันดับ 2 ของแต่ละด่าน) การเก็บดาวดวงที่ 2 และ 3 เป็นแบบ cumulative หรือก็คือมาเล่นหลายรอบเพื่อเก็บให้หมดได้
ex: ดาว 3 ดวง xxx เล่นรอบแรกได้ xx_ สามารถเล่นอีกรอบให้ได้ x_x เพื่อให้ดาวรวมในด่านนั้นเป็น xxx ได้
แผนที่ 2 ปรับปรุง ตัวชี้วัดแต่ละด่าน - เงื่อนไขในการบรรลุด่าน 3 ข้อ = ดาว 3 ดวง (ไม่ใช่ที่แต้มเก็บในด่าน) + เหรียญ medal พิเศษจากการบรรลุเงื่อนไข 2 ดวง ดวงแรก -> ผ่านด่าน เหมือนแผนที่ 1 ดวงที่ 2 และ 3 -> ในแต่ละด่านแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการวัดผลทักษะ (อาจจะเป๋นแค่ผ่านด่านเฉยๆ เหมือนดวง 1 ก็ได้)
ex: เดินผ่านช่องในด่านครบทุกจุดที่กำหนด (หรือเก็บของในด่าน) ห้ามเหยียบพื้นสัญลักษณ์ x ในการผ่านด่านนี้
ถ้าเป็นแผนแบบนี้ ในการผ่านด่านขั้นต่ำ ผู้เล่นจำเป็นเพียงแค่ต้องไปยังเส้นชัย (ได้แค่ 1 ดาว) หากอยากได้ดาวเพิ่ม ผู้เล่นจะต้องเล่นให้เงื่อนไขไม่ล้มเหลวทั้งหมดพร้อมกันทุกเงื่อนไขของดาวดวงนั้นๆ โดยไม่ใช่แบบ cumulative
Medal เหรียญพิเศษ แบ่งออกเป็น 2 เหรียญ เงื่อนไขในการได้รับก็คือ เหรียญ A -> จำนวน action ที่ตัวละครทำน้อยกว่า x ครั้งในการผ่านด่าน เหรียญ B -> จำนวนคำสั่งที่ใช้วางน้อยกว่า y ครั้งในการผ่านด่าน สรุปสั้นๆคือเหมือนเก็บดาวในแผนที่ 1 โดยการเก็บเหรียญจะเป็นแบบ cumulative และมีการเพิ่มสีของเหรียญ (ทองแดง/เงิน/ทองคำ)
ex : เหรียญทอง -> น้อยกว่า 5 คำสั่ง เหรียญเงิน -> น้อยกว่า 8 คำสั่ง เหรียญทองแดง -> น้อยกว่า 11 คำสั่ง
แผนที่ 3 แผนกลัวเกมซับซ้อนไป ปรับเป็นแค่มี 2 เหรียญ ไม่มีดาว ผ่านด่านแล้วแค่ปลดล็อคเส้นทางเพิ่มเฉย ๆ คล้ายๆเกม while true: learn
เพราะว่าผู้ที่เริ่มต้นการเขียนโปรแกรมหลาย ๆ คนให้ความสนใจกับ syntax ของ Programming language มากกว่าสนใจในเรื่องของ Logic หรือ Algorithm นั่นทำให้ผู้ที่เริ่มต้นการเขียนโปรแกรมหลาย ๆ คนรู้สึกว่าการเขียนโปรแกรมนั้นเป็นสิ่งที่ยากเนื่องจากมีพื้นฐานที่ไม่ดี ส่วนเกมของเราก็จะทำออกมาโดยจะมีความใกล้เคียงกับ Flowchart เพราะจะช่วยให้ผู้ที่หัดเขียนโปรแกรมสามารถทำความเข้าใจในพื้นฐานได้ดีกว่าการเขียนโปรแกรมจริง ๆ และดีกว่าการเขียน Flowchart เฉย ๆ และยังสามารถนำมาใช้ในการเรียนการสอน Programming ได้
แผนที่ 1 และแผนที่ 3 วัดโดยดูจากดาวที่ได้ภายในเกม โดยไม่สามารถแจกแจงเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ภายในเกมได้
แผนที่ 2 แบ่งประเภทของดาวแต่ละดวงเป็นประเภทในการวัดผลประเภทต่าง ๆ เช่น loop หรือ condition หรือ basic ซึ่งจะสามารถนำมาแสดงได้ว่าผู้เล่นบรรลุเนื้อหาในด้านใด ขาดทักษะในด้านใด โดยใช้ดาวเป็นตัวสื่อ
ex : ดาวทั้งหมดที่ผู้เล่นได้ 127/300 แบ่งเป็น ดาวจากการผ่านด่าน 54/100 ดาวจากเนื้อหาความรู้ทั่วไปของเกม 18/24 ดาวจากเนื้อหาความรู้ด้าน condition 22/64 ดาวจากเนื้อหาความรู้ด้าน loop 33/112
สิ่งนี้จะทำให้ผู้เล่นสามารถรู้ได้ว่าตนเองยังเล่นเงื่อนไขในด้านใดไม่ผ่าน
ด่านในเกมจะถูกแบ่งเป็นโดย world และ level ย่อย ex: world 1 มีด่านเป็น level ย่อยทั้งหมด 7 ด่าน กำหนดด่านที่ต้องพัฒนา 7 ด่าน แบ่งเป็น 3 level แรกสำหรับสอน basic
4 level สำหรับด่านทั่วไป และด่านแปลก ๆ
วิธีการประเมินผู้เล่น
การให้คะแนนผู้เล่น
เงื่อนไขการผ่านด่านในเกม
scope ของด่าน
วิธีวัดผลว่าเกมช่วยเรื่องการเขียนโค้ดยังไง (อ.ธนา )